September 28, 2024
treatment ทางการแพทย์

Treatment การดูแลรักษาสุขภาพและบุคลิกที่ดี

ด้วยภาวะที่โลกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วย มลพิษทางอากาศ  อากาศไม่ค่อยบริสุทธิ์ มีสิ่งเจือปนหรือเชื้อโรคต่าง ล่องลอยไปกับอากาศบางครั้งเราสูดดมเข้าไป หรือสัมผัส เป็นภัยเป็นพิษใกล้ตัว  มลพิษไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองใหญ่เท่านั้น แม้แต่ในชนบทก็ยังเกิดมลพิษได้เช่นกัน ะ

เดี๋ยวนี้เกษตรกรก็มีการใช้สารเคมีและยาปราบศรัตรูพืช หรือ ยาฆ่าหญ้า เป็นจำนวนมากขึ้น จึงทำให้ในปัจจุบันนี้อากาศที่เป็นพิษ เช่น PM10, PM2.5 รวมถึงก๊าซโอโซน ควันจากไฟป่า หรือการเผาไร่ของเกษตรกร กลายเป็นมลพิษทางอากาศ จึงแพร่กระจายไปทั่วทุกแห่ง ทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุขภาพร่างกายของเราที่ได้รับสารพิษสะสมในร่างกายอ่อนแอลง  จึงจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการ treatment  ทรีตเมนต์  เพื่อบำรุง รักษา ฟื้นฟู สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ผิวหน้า หรือผม หรือต้องทรีตเมนต์ทั้งร่างกายเพื่อขับสารพิษ ออกไปจากร่างกายให้ได้มากที่สุด

ทรีตเมนต์ผม ใช้อย่างไร

treatment  ทรีตเมนต์ผม  ผมเป็นส่วนหนึ่งของความสวยความงาม และยังแสดงออกถึงความมีสุขภาพดีของเจ้าของด้วย  เพื่อก้าวตามแฟชั่นให้ทัน จึงต้องมีการทำสีผม ดัดผม หรือทำอะไรที่เกี่ยวกับ ผม หรือผมต้องปะทะกับอากาศ หมอกควัน ทำให้ผมเกิดความเสีหาย  จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการบำรุงรักษาผม หรือที่มักเรียกกันว่า การ treatment  ทรีตเมนต์ผม หรือการหมักผมด้วยครีมบำรุงเส้นผม  

ซึ่งก็มีหลายวิธี และมีครีมสำหรับทรีตเมนต์ หลากหลายยี่ห้อที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด  ครีมทรีตเมนต์เป็นครีมที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลบำรุงเส้นผม อย่างเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมจากรูขุมขน จนถึงปลายผม ดังนั้นจึงต้องมีการหมักที่ใช้เวลานานนิดหน่อย ซึ่งต่างจากแชมพู ที่ดูแลเส้นผมแค่ภายนอกเท่านั้น  treatment  ทรีตเมนต์ผม จึงเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ เพราะว่าผมต้องสัมผัสมลภาวะที่เป็นพิษที่มากับอากาศ หรือแสงแดด อากาศที่เย็นจัด ก็อาจทำให้ผมหยาบกระด้างแข็ง จัดแต่งทรงยาก แตกปลาย ผลิตภัณฑ์บำรุงผมจึงมีบทบาทเข้ามาช่วยดูแลเส้นผม ฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหายกลับมาชุ่มชื้น นิ่มสลวย มีน้ำหนัก 

ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ ทรีตเมนต์ผม

ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ treatment  ทรีตเมนต์ผม  ด้วยเพราะเส้นผมของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน มีความแตกต่างกัน บ้างเส้นผม ลีบบาง หยิกหยอย หยาบแข็งกระด้าง  อาจเนื่องมาจากการดัด หรือทำสี หรือมาจากกรรมพันธุ์  ก็เป็นได้ ดังนั้น เราต้องมาเลือกว่าผลิตภัณฑ์ ชนิดใดที่เหมาะสมกับเส้นผมของเรา และต้องเลือกจากประเภทเส้นผมของตัวเอง เช่น

  • ผมเป็นเส้นแห้ง ๆ ไม่ชุ่มชื้น ไม่อยู่ทรง ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ ที่ให้ความชุ่มชื้น ซึ่งผลิตมาจาก น้ำมันมะพร้าวน้ำมันมะกอก หรือ โจโจบาร์ ก็ได้ นำมาหมักผมไว้ ก็จะทำให้ผมของเรามีความชุ่มชื้น เป็นเงาแวววาว มีน้ำหนัก จัดทรงง่าย พลิ้วสวยงาม
  • ผมชนิดหลุดร่วงง่าย ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูรอนิก หรือสาร Lipidure ถึงแม้ส่วนผสมเหล่านี้จะมีอยู่ในแชมพูแล้วก็ตาม แต่การใช้แชมพูนั้นเป็นการทำความสะอาดแค่ภายนอกเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์ บำรุงผมที่มีส่วนผสมของสาร Lipidure และ  กรดไฮยาลูรอนิก มาหมักผมให้ผมหายขาดหลุดร่วง 
  • ผมชนิดแตกปลาย ที่มีการแตกปลายผมเป็นจำนวนมาก ๆ  ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์บำรุงผมที่มีส่วนผสม ของเคราตินเป็นหลัก เพราะเคราตินจะช่วยให้เส้นผมของเรากลับมาแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างสวยงาม
  • ถ้าผมหรือหนังศีรษะที่มีความแพ้ง่าย ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ treatment  ทรีตเมนต์ผม ที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้มากขึ้นกว่าเดิมก็ได้

ผลิตภัณฑ์ นั้นมีมากมาย การที่เราจะตัดสินใจเลือกทรีตเมนต์นั้น ต้องเลือกจากประเภทเส้นผมและหนังศีรษะของเราเป็นหลัก ไม่เลือกตามคนอื่น ต้องมีการศึกษาและดูคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ที่เราจะใช้ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลเต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่น ถ้าเส้นผมเป็นประเภทที่แห้งมาก ๆ เสียจนการบำรุงยากมาก ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้อบกับไอน้ำไปเลยดีกว่า ก็จะได้รับการบำรุงที่ได้ผล 

ความร้อนจะไปเปิดรูขุมขน ให้ทรีตเมนต์เข้าไปบำรุงรากผมอย่างเต็มประสิทธิภาพ  อีกประการหนึ่งสูตรของผลิตภัณฑ์ เราต้องทำความรู้จักบ้าง เพื่อมาแก้ปัญหาเส้นผมของเราได้ตรงจุด หรือจะทำให้เรามีอาการแพ้หรือไม่ 

treatment การทดลอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://rattinanhospital.com/

การ treatment  ทรีตเมนต์หน้า

ใบหน้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับหรือสัมผัสมลภาวะที่เป็นพิษ หรืออาจจะเป็นด้วยวัยที่สูงขึ้น  จึงทำให้ใบหน้า ดูหยาบกร้าน เหี่ยวย่น หมองคล้ำ  ดูแล้วไม่สวยกระจ่างใส ทำให้เจ้าของใบหน้าไม่มีความมั่นใจ ในการเข้าสังคม  จึงต้องมีการ ทรีตเมนต์ใบหน้า (Facial treatment) เพื่อการดูแล รักษา แก้ไขใบหน้าที่หยาบกร้าน หมองคล้ำ เหี่ยวย่น ต้องบำรุงดูแลผิวหน้า  ซึ่งก็มีหลายวิธี การทรีตเมนต์ด้วยการใช้คลื่นวิทยุ 

การทำทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency therapy) เป็นการปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในชั้นของผิวเมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้นก็จะส่งผลให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ผิวคล้ำดูจากลง  หรืออาจเป็นการอัลตราซาวด์ยกกระชับผิว หรือการใช้ครีมทรีตเมนต์ ครีมกระชับใบหน้า (Firming cream)หรือ เซรั่ม (Serum) รวมถึงการใช้วิตามินซิ และวิตามินเอ ร่วมด้วย  

การทรีตเมนต์ใบหน้า อาจจะเป็นการยกกระชับใบหน้า การผลัดเซลล์ผิวใหม่ ใช้ครีมบำรุงรักษาให้ใบหน้าเนียนนุ่ม ดูสดใส  ลดรอยเหี่ยวย่น รักษาสิว ลดรอยคล้ำต่าง ๆ  และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า

ทรีตเมนต์ใบหน้า (Facial treatment) การทรีตเมนต์ใบหน้านั้นเป็นการ บำรุง ดูแลรักษาใบหน้าให้ดูสดใสสวยงามอยู่เสมอ เราต้องทำการดูแลรักษาอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทำเป็นประจำวัน โดยการใช้ครีมบำรุง พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกไปในที่ที่มีแสงแดดแรง 

ถ้าจะออกไปก็ควรมีการทาครีมกันแดดด้วย สำหรับการที่เราจะไปทำทรีตเมนต์ใบหน้าตามสถาบันเสริมความงาม  ก็ต้องทำกับสถาบันเสริมความงามที่เชื่อถือได้ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เราจึงจะปลอดภัยในการทำทรีตเมนต์ใบหน้า (Facial treatment)  ซึ่งเราก็จะได้ผลลัพธ์ที่เราพึงพอใจ และปลอดภัยจาการทำทรีตเมนต์ใบหน้า (Facial treatment)