September 28, 2024
รูช่องคลอดอยู่ตรงไหน? ปัญหาที่อาจทำร้ายช่องคลอดได้ มีอะไรบ้าง

รูช่องคลอดอยู่ตรงไหน? ปัญหาที่อาจทำร้ายช่องคลอดได้ มีอะไรบ้าง?

รูช่องคลอดอยู่ตรงไหน? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่แม้แต่ผู้หญิงเองก็อาจจะแทบไม่รู้ เพราะถ้าต้องการตรวจสอบเรื่องของสุขภาพภายในผ่านบริเวณรูช่องคลอด หรือที่ถูกเรียกว่าปากช่องคลอด จะต้องทำการตรวจผ่านทางแพทย์เท่านั้น เพื่อทำให้สามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียด ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ไม่ใช่แค่เพียงการสอดใส่เมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในอีกหลากหลายด้านของร่างกายผู้หญิงอีกด้วย

ทำความเข้าใจรูช่องคลอดอยู่ตรงไหน?

ถ้าคุณกำลังสงสัยว่ารูช่องคลอดอยู่ตรงไหน? สามารถตอบได้ว่าเป็นช่วงปากช่องคลอดจะอยู่ตรงบริเวณส่วนท้ายหรือส่วนล่างของช่องคลอด โดยถัดลงไปจากท่อปัสสาวะและจะมีเยื่อบาง ๆ หรือเยื่อพรหมจรรย์ปกคลุมอยู่ที่บริเวณปากช่องคลอด เพื่อการป้องกันสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่บริเวณช่องคลอดง่ายจนเกินไป ส่วนของรูช่องคลอดจะมีลักษณะที่คล้ายกับท่อที่เชื่อมต่อไปยังมดลูก มีส่วนประกอบเป็นกล้ามเนื้อคล้ายท่อขนาดยาวและอยู่ตรงช่วงระหว่างท่อปัสสาวะกับทวารหนัก เป็นจุดสำคัญของการปล่อยเลือดประจำเดือนและการคลอดบุตร ดูดไขมัน

โดยผนังด้านในจะมีลักษณะเป็นลอนคลื่นและเป็นสีชมพูที่มีความยืดหยุ่นได้ดี โดยความยาวของรูช่องคลอดนั้นอาจมี 3-5  นิ้ว ส่วนของบริเวณช่องคลอดและทางเปิดเข้าสู่มดลูกจะอยู่ด้านในสุด ซึ่งถือว่าเป็นส่วนภายในของร่างกาย จึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สำหรับบริเวณอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับช่องคลอดอย่างแคมเล็ก, แคมใหญ่ และคริตอริส จะไม่ใช่ส่วนบริเวณของรูช่องคลอดแต่อย่างใด รูช่องคลอดจะเป็นลักษณะช่องกลวงที่จะเชื่อมจากช่วงปากมดลูก โดยจะเป็นอวัยวะที่อยู่ภายในบริเวณอุ้งเชิงกราน

โดยช่องคลอดของมนุษย์จะมีความยาว ความกว้าง และรูปร่างที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งจะเป็นไปตามสรีระ จะมีลักษณะเป็นแบบยืนตรงและเอียงไปสู่ด้านหน้า พร้อมทำมุมประมาณ 45 องศา ทั้งยังมีรูปร่างกับขนาดที่แตกต่างไปตามเชื้อชาติ ของผู้หญิงในแต่ละรายอีกด้วย เมื่อใดที่มีการคลอดบุตรหรือการมีเพศสัมพันธ์ บริเวณรูช่องคลอดจะสามารถขยายใหญ่ได้มากขึ้น 2-3 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งบริเวณของรูช่องคลอดจะมีต่อมบาร์โธลินที่จะเป็นตัวขับสารหล่อลื่นออกมาจากผนังของช่องคลอด และสารนี้จะซึมไปทั่วบริเวณของอวัยวะเพศกับผนังช่องคลอดทั้งหมด เพื่อทำการหล่อลื่นให้เกิดความชุ่มชื้นและเป็นตัวช่วยในการฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่บริเวณมดลูกได้

สัญญาณเตือนเกี่ยวกับช่องคลอดที่ควรระวัง

ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับรูช่องคลอดและบริเวณช่องคลอดกับปากมดลูกทั้งหมด อาจเกิดขึ้นได้ถ้าถูกละเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำความสะอาดหรือสุขภาพโดยรวม ดังนั้นคุณจึงควรดูแลและคอยสังเกตอาการที่อาจจะผิดปกติ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นลองมาดูสัญญาณเตือนที่จะบอกได้ว่าช่องคลอดของคุณกำลังจะมีปัญหา ดังนี้

1.การตกขาวผิดปกติ

อาการตกขาวที่มีมากผิดปกติหรือมีสีที่ผิดเพี้ยน กลายเป็นสีเหลืองและอาจจะกลายเป็นสีเขียว, สีน้ำตาลปนเลือด, สีชมพู หรือมีความเหนียวและกลิ่นคาวที่เหม็นมาก จะเป็นตัวบ่งบอกของโรคที่อาจส่งผลต่อช่องคลอดอักเสบและอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้

2.มีกลิ่นรุนแรง

กลิ่นรุนแรงที่มาจากบริเวณช่องคลอด ไม่ใช่กลิ่นตามธรรมชาติ แต่กลายเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ มีกลิ่นคาวที่เหม็นแรง พร้อมอาการร่วมที่มีทั้งการแสบร้อน, อาการคันรุนแรง, มีตกขาวสีผิดปกติ, มีภาวะเชื้อราบริเวณช่องคลอด หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงอาการเจ็บอย่างรุนแรง จะสื่อให้เห็นถึงสัญญาณเตือนบริเวณช่องคลอดเริ่มเกิดอาการระคายเคือง ติดเชื้อ อักเสบ และอาจจะกำลังกลายเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรค ซึ่งควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาทันที

3.ช่องคลอดภายในแห้ง

ปัญหาบริเวณช่องคลอดภายในเกิดความแห้งผิดปกติ เนื่องมาจากจุดที่เคยผลิตสารหล่อลื่นหยุดทำงานหรือทำงานได้น้อยลง จากอาการติดเชื้อต่าง ๆ รวมไปถึงภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน จะทำให้ความชุ่มชื้นที่เคยมีภายในลดลง จึงทำให้เกิดการเสียดสีและความยืดหยุ่นของบริเวณช่องคลอดเกิดปัญหาไปด้วย พร้อมทำให้การติดเชื้อเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ซึ่งผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดแห้งมากที่สุด คือ ช่วงวัยทอง แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าดูแลดีจะไม่มีปัญหาให้น่ากังวลมากนัก

4.มีเลือดออกมากผิดปกติ

หนึ่งในอาการที่น่ากลัวของบริเวณช่องคลอด คือ การมีเลือดออกมากผิดปกติและไม่ใช่การมีเลือดออกในช่วงมีประจำเดือน ทั้งยังเป็นการออกอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะออกจำนวนมากหรือจำนวนน้อย ถือว่าอันตรายทั้งหมด เพราะอาจจะเป็นการบอกถึงสัญญาณเตือนเรื่องเนื้องอกในมดลูก, การเกิดฮอร์โมนผิดปกติ, การใช้ยาคุมกำเนิดที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้, การเกิดมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งช่องคลอด รวมไปถึงการเกิดความผิดปกติต่าง ๆ บริเวณผิวผนังช่องคลอด ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นอย่างมากที่จะต้องพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาในอนาคต

สำหรับผู้ที่สงสัยว่ารูช่องคลอดอยู่ตรงไหน? เมื่อได้อ่านความรู้ภายในบทความนี้ เชื่อว่าคุณจะเข้าใจมากขึ้น พร้อมการดูแลสุขภาพช่องคลอดได้ดีขึ้น เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงต่อโรคร้ายต่าง ๆ ซึ่งความเข้าใจนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถดูแลทุกส่วนของอวัยวะเพศและช่องคลอด ให้ยังคงปลอดภัยอยู่เสมอได้ง่ายมากขึ้น